เมื่อ : 13 พ.ย. 2567

ตำรวจภาค 4 ตามรวบ อดีตลูกจ้างป่าไม้ร่วมกับพวก 5 คน  ปล้นปืนและไม้พะยูง หน่วยป้องกันรักษาป่า ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการอยู่ระหว่างการขยายผลขอศาลออกหมายจับ

 

พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.4  ได้ทำการ  จับกุม นายเทพตะวัน สุริยมาตย์  หรืออาท อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่  247 ม.10 ต.ส่องดาว อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลสว่างแดนดิน  ที่ จ.141/2567 ลงวันที่ วันที่ 11 พ.ย. 2567 ในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ ติด ตัวไปด้วย ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน

 

โดยมีอาวุธหรือร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้น ไป โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร พร้อมด้วยของกลางรถยนต์โยโยต้า 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องขณะที่ผู้ต้องหาขับรถยนต์อยู่บนถนนสาย 227  วังสามหมอ - วาริชภูมิ  ต.หนองกุงทับม้า  อ.วังสามหมอ  จ.อุดรธานี

 

พล.ต.ต.นพเก้า กล่าวว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ได้รับแจ้งเหตุมีเหตุคนร้าย 5 คนพร้อมอาวุธครบมือ บุกปล้นไม้พะยูงของกลางที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สน.2 (วาริช-พรรณา) ศูนย์ป่าไม้สกลนคร ริมถนนสาย 2218 ต.กุดตะกาบ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร  โดยคนร้ายได้จับเจ้าหน้าที่ 3 คนมัดมือมัดเท้ารุมทำร้ายร่างกาย  จากนั้นพังกุญแจประตูรั้วถอยรถกระบะเข้ามาขนไม้พะยูงของ กลาง 19 ท่อน มูลค่ากว่า 800000 บาทและปืนลูกซองของเจ้าหน้าที่หลบหนีไป  

 

”พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4  จึงสั่งการให้ บก.สส.ภ.4  โดย พ.ต.อ.นิคม ชัยเจริญ ผกก.สืบสวน3 บก.สส.ภ.4 พร้อใด้วย พ.ต.ท.ไพรวัลย์ อายุวงษ์ รอง ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.4นำกำลังลงพื้นที่ หาเบาะแสคนร้ายจนพบเบาะแส 1 ในคนร้ายและเชื่อว่าน่าจะร่วมกับพวกอีก 4 คน มาทำการปล้นปืนและไม้พะยุงไป คือ นายอาท   ซึ่งเคยเป็นพนักงานราชการของกรมป่าไม้ เข้ามาทำงานได้ประมาณ 5 ปีเคยทำงานในหน่วยป่าไม้ที่ สน.2 ที่ถูกปล้นไม้ของกลาง แต่พบมีพฤติการณ์ไม่มาทำงาน และขาดงานบ่อย จึงถูกย้ายออกนอกพื้นที่ ไปอยู่ที่จ.อุดรธานี ได้ปีกว่าแล้ว จึงรวบรวมพยาน หลักฐาน ขอศาลออกหมายจับนายอาท ในข้อหาดังกล่าว”

 

พล.ต.ต.นพเก้า  กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนนายอาท ซึ่งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดการสอบสวนได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการขยายผลจับกุมคนร้ายที่เหลือ และคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงได้ควบคุมตัว ผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวนสภ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร  เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป