ผู้การโคราชยกระดับตำรวจอาสาชุมชน ป้องกันยาเสพติด-อาชญากรรม-ระงับเหตุคนคลุ้มคลั่ง
นครราชสีมา –ผู้การโคราช นำร่องผนึกกำลังเปิดยุทธการ ตำรวจอาสา ป้องกันยาเสพติดอาชญากรรม ระดมชุมชนสู้ภัยครั้งใหญ่ หลังสถิติอาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
.
พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิด “โครงการตำรวจอาสาป้องกันยาเสพติดและอาชญากรรม ตำบลหัวทะเล โดยมี นายเอกภพ โตมรศักดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลหัวทะเล พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา และ พ.ต.ท.ยุทธพงษ์ โคขุนทด รอง ผกก.ป. สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมถ่ายทอดความรู้และแนวทางป้องกันภัยในชุมชน ตามแนวคิด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 ที่ห้องประชุมบึงทะเล เทศบาลตำบลหัวทะเล อำเภอเมืองนครราชสีมา
.
ภายในงานมีการอบรมให้ประชาชนเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด อาชญากรรม และความไม่สงบในพื้นที่ พร้อมสาธิตสถานการณ์จริงในการระงับเหตุบุคคลคลุ้มคลั่ง เพื่อสร้างทักษะการช่วยเหลือในเบื้องต้นให้ชุมชน
.
พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ กล่าว เน้นย้ำว่า การทำงานของตำรวจยึดหลักป้องกันเหตุร้ายก่อนเกิดเหตุ ตามพระบรมราโชวาทรัชกาลที่ 5 “การจับผู้ร้ายไม่ใช่ความชอบ หากแต่การป้องกันประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุขคือความชอบแท้จริง” สอดคล้องกับหลัก “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” พระราชทานโดยรัชกาลที่ 9 และพระราชดำรัสรัชกาลที่ 10 ให้เจ้าหน้าที่รัฐทำงานด้วยความเสียสละเพื่อสันติสุขของประชาชน
.
ข้อมูลสถานการณ์พื้นที่ จ.นครราชสีมา ปีงบประมาณ 2568 พบการจับกุมยาเสพติดถึง 6694 ราย ผู้เข้าบำบัด 641 ราย ขณะคดีอาชญากรรมเกิดขึ้น 21704 คดี สูงขึ้นจากปีก่อนอย่างน่ากังวล ทำให้การป้องกันเชิงรุกและการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน
.
สอดคล้องกับนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “1 ยึดมั่น 6 เร่งรัด 9 ก้าวหน้า” ที่มุ่งลดภัยอาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยภาค 3 ได้กำหนดแนวทางให้ทุกโรงพักเร่งรัดงานป้องกัน พัฒนาความร่วมมือเครือข่ายชุมชน และจัดตั้งอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยในทุกพื้นที่เสี่ยง
.
โครงการตำรวจอาสาตำบลหัวทะเลจึงเกิดขึ้นจากการบูรณาการร่วมกันระหว่างตำรวจและชุมชน โดยคัดเลือกประชาชนจากทุกหมู่บ้านเข้ารับการอบรม ก่อนร่วมกันวางแนวทางป้องกัน ตรวจตราพื้นที่ และแก้ไขปัญหาในเชิงรุก
.
ทั้งนี้ การมีส่วนร่วมของประชาชนคือหัวใจสำคัญในการเฝ้าระวังและตัดวงจรอาชญากรรมอย่างยั่งยืน เป้าหมายสูงสุดคือสร้าง “ชุมชนหัวทะเลเข้มแข็ง” ที่ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดความเสี่ยงและสร้างความปลอดภัยให้ทุกครอบครัวในพื้นที่
.
นายประสิทธิ์ วนะชกิจ รายงาน
