เมื่อ : 24 พ.ย. 2567

ศึกฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก 2024/25 นัดที่ 13 บิ๊กแมตช์ที่ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เจ้าบ้าน ”กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จ่าฝูงของตาราง  

 

การจัดตัวผู้เล่นเจ้าบ้านมี กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก เฝ้าเสา แนวรับวาง ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ อาลี ซิสโซโก้ อับบอส โอตาโคนอฟ และแพทริค สเตราส์ มิดฟิลด์ส่ง สรวิทย์ พานทอง พิชา อุทรา และ คคนะ คำยก แนวรุกเป็น เอมิล โรบัค ปรเมศย์ อาจวิไล และ เฟลิซิโอ

 

เริ่มเกมมาเพียง 3 นาทีแรก เจ้าบ้านเกือบออกนำเร็วเมื่อ ปรเมศย์ อาจวิไล ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษ แต่ยิงไปติดเซฟ ปฎิวัติ คำไหม ปัดทิ้งออกมา

 

นาทีที่ 17 เมืองทอง ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะตามซ้ำในเขตโทษของ เอมิล โรบัค แต่ ปฎิวัติ คำไหม ยังตามสกัดออกมาจากเส้นประตู

 

กิเลนผยองมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมทางฝั่งแล้วเป็น ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ ทะยานขึ้นโขก บอลผ่านมือ ปฏิวัติ คำไหม เสียบคานเข้าไป

 

นาทีที่ 26 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูเพิ่ม จากบอลชิ่งเร็วหน้าเขตโทษ แพทริค สเตราส์ ได้ปั่นโค้งด้วยขวา แต่บอลยังพุ่งตรงมือ ปฏิวัติ คำไหม

 

ทีมเยือน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มาตามตีเสมอ 1-1 นาทีที่ 40 จากจังหวะยิงไกลนอกเขตโทษแล้วเป็น ซิฟโควิช ที่วิ่งตามมาซ้ำเข้าไปไม่พลาด

 

จบครึ่งแรก เกมส์เป็นไปอย่างสนุก เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังเสมอ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-1

 

กลับมาดวลกันในครึ่งหลัง นาทีที่ 61 ทีมเยือนได้ลุ้นจากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของ มูเซน แต่บอลยังติดเซฟ กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก ออกมา

 

นาทีที่ 67 เป็นโอกาสของเจ้าบ้านเมื่อ เฟลิซิโอ ได้ยิงหน้าเขตโทษ แต่บอลยังพุ่งตรงตัว ปฏิวัติ คำไหม

กิเลนผยองได้ประตูนำอีกครั้ง 2-1 นาทีที่ 76 จากจังหวะกระชากไปยิงในเขตโทษของ  เฟลิซิโอ ก่อนยิงเข้าเสาแรกเข้าไปเด็ดขาด

 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เมืองทอง ยูไนเต็ด เฉือนชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1 เก็บ 3 คะแนนสำเร็จ

ส่วนโปรเเกรมถัดไปของ เมืองทอง ยูไนเต็ด จะทำศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 บุกเยือน เซลังงอร์ วันที่ 28 พ.ย.67 เวลา 20.00 น.  

 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม 

 

เมืองทอง ยูไนเต็ด : กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (GK) ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ อาลี ซิสโซโก้ อับบอส โอตาโคนอฟ แพทริค สเตราส์ พิชา อุทรา สรวิทย์ พานทอง คคนะ คำยก เอมิล โรบัค เฟลิซิโอ ปรเมศย์ อาจวิไล

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด : ปฏิวัติ คำไหม (GK) วันชัย จารุนงคราญ เอเวอร์ตัน สุพรรณ ทองสงค์ นิติพงษ์ เสลานนท์ ปกเกล้า อนันต์ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ บาสเซล จราดี้ ซิฟโควิช มูเซน

 

ผู้ตัดสิน : ฐาปกรณ์ ทองก้อน

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Sport
ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามสำหรับงานแข่งขันกีฬาฟันดาบนานาชาติ International Fencing Cup 2024 ครั้งแรกของประเทศไทย จัดขึ้นโดยชมรม Ying Fencing Club ซึ่งจัดการแข่งขันกีฬาฟันดาบครั้งใหญ่ โดยมีนักกีฬาฟันดาบนานาชาติเข้าร่วมกว่า 800 คนจาก 13 ประเทศ และเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่จัดให้มีนักกีฬาอายุ 6 ขวบได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขัน โดยงานจัดให้มีขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2567 และวันอาทิตย์ที่ 1ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์การค้าฟีนิกซ์ ประตูน้ำ (หรือเดิมคือ พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า) โดยมี ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานมี พลโทโชคชัย พลสมัคร กรรมการสมาคมฯ. พร้อมด้วย คุณVictor K.Lau คุณพานุศักดิ์ พลาวัสถ์พงษ์คณะกรรมการจัดการแข่งขัน ให้การต้อนรับ. ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวเปิดงานในส่วนของสมาคมกีฬาฟันดาบฯ ดังนี้ “ในส่วนของ สมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ ขอขอบคุณชมรมสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจดํารงตําแหน่ง นายกสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ สมัยวาระ ปี 2567 ถึงปี 2571 สําหรับบทบาทของ สมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ เรามุ่งมั่นนักกีฬาฟันดาบของไทยในทุกรุ่นอายุ ตั้งแต่ระดับยุวชน เยาวชน รุ่นทั่วไป รวมถึงรุ่นอาวุโส ให้มีความเป็นเลิศทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงในระดับ เอเชีย และระดับโลกอีกด้วย โดยเฉพาะในภูมิภาคบ้านเรา ยังคงมีความมุ่งหวังอย่างแรงกล้า ให้ประเทศไทยได้กลับขึ้นมาเป็นเจ้าอาเซียนอีกครั้ง นอกจากนี้ทางสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ ยังมุ่งมั่นเผยแพร่กีฬา ฟันดาบ ให้กระจายสู่ทั่วทุกภูมิภาคของเมืองไทย เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งประเทศได้รู้จัก และหันมาเล่นกีฬาฟันดาบกันมากขึ้นโดยเฉพาะในรุ่นยุวชน และเยาวชน ซึ่งเป็นผลดีต่อทุกภาคส่วน. เพื่อให้สมาคมฯ ได้เฟ้นหานักกีฬาช้างเผือกจากพื้นที่ห่างไกล และเป็นการเปิดโอกาสในด้านความเป็นเลิศของนักกีฬา รวมถึงโอกาสทางการศึกษาของนักกีฬา ที่อยู่ในต่างจังหวัดอีกด้วย” ภายในงานได้รับเกียรติจากนักกีฬาฟันดาบระดับโลกมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชน อาทิ คุณ Zhang Ying ผู้ชนะเหรียญทองจากรายการชิงแชมป์โลกจากจีน และ ทีมโค้ชแชมป์โลกจากนานาชาติ อาทิ โค้ช Hamed Sedaghati อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติอิหร่าน และ Fabien Maumus อดีตนักกีฬาทีมฝรั่งเศส ฯลฯ ตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ที่สำคัญมี 2 โค้ช ไทยผู้สร้างแรงบันดาลใจในงานนี้ คือ “โค้ชปุ๊ย” นันทา จันทสุวรรณสิน ผู้ฝึกสอนของชมรมYing Fencing Club ผู้ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนของ “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบคนแรกของโลก ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้ชาติไทยเจ้าของ 3 เหรียญทองพาราลิมปิกครบทั้ง 3 ประเภทดาบ. และท่านอาจารย์ ชาติชาย (พลโท ชาติชาย เกษมวงศ์) อุปนายกสมาคมกีฬาฟันดาบ โค้ชไทยที่อุทิศชีวิตและจิตวิญญาณให้กับกีฬาฟันดาบ โดยท่านได้เป็นอาสาสมัครไปเดินทางไปฝึกสอนและสร้างนักกีฬาในชนบทที่ขาดโอกาสและทุนทรัพย์ใ นการเข้าถึงกีฬาฟันดาบให้ได้มีโอกาสในการเรียนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย. ก็ได้พานักกีฬาฟันดาบจากท้องถิ่น เข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญครั้งนี้ประเทศไทยได้ส่งนักกีฬาฟันดาบรุ่นอายุ 6 ขวบมาร่วมแข่งขันเป็นครั้งแรก ถือว่าเป็นเรื่องใหม่และเป็นก้าวย่างสำคัญในการพัฒนาของวงการฟันดาบแห่งประเทศไทย งานนี้ทำให้ต่างชาติมองเห็นว่าเมืองไทยเราสามารถจัดการแข่งขันระดับกีฬาฟันดาบในระดับนานาชาติได้จริง เพราะมีความพร้อมทั้งระบบการจัดการ สถานที่จัดงานรองรับผู้เข้าชมงานได้เป็นจำนวนมาก โดยท่านนายกสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทยฯ มีความต้องการจะสนับสนุนและยกระดับนักกีฬาฟันดาบในประเทศให้ทัดเทียมนานาชาติ และเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศได้มีโอกาสเข้าถึงกีฬาฟันดาบ โดยมีโค้ชระดับโลกเข้ามาสอน และจะผลักดันเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ที่สำคัญอยากให้รัฐบาลมองเห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนกีฬาฟันดาบ ซึ่งสมาคมกีฬาฟันดาบของไทยปัจจุบันนี้มีนักกีฬาอายุ 6 ขวบไปแข่งกับ 8 ขวบได้ที่ 3 กลับมา ไปร่วมแข่งที่เซี่ยงไฮ้ จนได้ที่ 2 กลับมา และไปร่วมแข่งกับ นานาชาติก็ได้รับรางวัลกลับมา ซึ่งสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้. จากการเริ่มต้นในการจัดงานแข่งขันกีฬาฟันดาบนานาชาติครั้งนี้ ทางสมาคมขอขอบคุณ แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เอฟบีที และ ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในการให้การสนับสนุนในการจัดการแข่งขัน และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐและเอกชน ในการเข้าร่วมสนับสนุนในการจัดงานครั้งต่อไปเพื่อให้กีฬาฟันดาบของประเทศไทยมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องอย่างแท้จริง
02 ธ.ค. 2567