ลุยค้นบ้านเช่าคนจีนย่านปากเกร็ดซื้อข้อมูลคนไทยสมัครทำร้านค้าออนไลน์
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ได้ข้อมูลจากสายลับว่า มีกลุ่มคนจีนมาเช่าบ้านในหมู่บ้านย่านนนทบุรี ทำเป็นออฟฟิศ ซื้อข้อมูลคนไทยมาสมัครร้านค้าออนไลน์ ในแพลตฟอร์ม etsy และ amazon ของอเมริกา เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกา กำหนดให้คนจีน 1 รายชื่อ สามารถเปิดร้านค้าได้ 1 ร้านเท่านั้น ทำให้เกิดความหัวใสประกอบกับมีคอนเนคชั่นในไทยอยู่แล้ว จึงไปหาคนไทยที่หารายได้เสริมในเพจ Facebook กลุ่มหางาน
โดยนำข้อมูลคนไทยมาใช้สมัครร้านค้าออนไลน์ ที่บ้านเช่าย่านนนทบุรี โดยให้ค่าตอบแทนรายละ 900 - 1000 บาท และนำร้านค้าออนไลน์ที่คนไทยได้สมัครเปิดไปแล้วไปปล่อยทำกำไรต่อให้กับคนจีน ในราคา ร้านละ 40000 หยวน หรือตกราวๆ 200000 บาทไทย ซึ้งร้านค้าออนไลน์ดังกล่าวเมื่อตกไปอยู่ในมือคนจีนแล้วนั้นอาจจะสร้างความเสียหายให้กลุ่มคนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะใช้วิธีการเลี้ยงลูกค้าที่สั่งสินค้าอยู่เป็นประจำ 5-6 เดือน ทำให้ตายใจ หลังจากนั้นจะปิดร้านค้าหนี อาทิเช่น ร้านค้าออนไลน์ที่สั่งของแล้วไม่ได้ของเป็นต้น โดยมุ่งเป้าหลักคือ คนจีนและอเมริกา เนื่องจาก แอปฯ etsy เป็นแอปประเภทสินค้าแฮนด์เมท เป็นที่นิยมของฝรั่ง ครั้งแรกอาจจะได้ของแต่ต่อมาสั่งของก็ไม่ได้ของ จนอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อผู้ใช้บริการ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร.รรท.ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด สืบสวนหาตัวกระทำความผิด และผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 ร.ต.อ.เปรมประชา อุตมา รอง สว.กก.2 บก.สอท.4 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พร้อมด้วย นายสุธีระ พึ่งธรรม ผู้อำนวยการสำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม และเจ้าหน้าที่ กสทช. นำหมายศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
เมื่อถึงบ้านหลังดังกล่าว พบชายชาวจีน รับว่าเป็นผู้ดูแลและติดตั้งอุปกรณ์ มินิพีซีพร้อมแอร์การ์ดประจำอยู่ในแต่ละเครื่อง ทั้งนี้ชายชาวจีนได้อ้างว่า เป็นอุปกรณ์สำหรับร้านค้าออนไลน์ มินิพีซี 1 เครื่องเท่ากับ 1 ร้านค้า และจะใช้อินเทอร์เน็ตผ่านแอร์การ์ด สำหรับทำยอดไลค์ มินิพีซีบางเครื่องจะมีแอร์การ์ดถึง 3 ตัว เพื่อป้องการการไม่เสถียรของสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยจะมีบอสชาวจีน ควบคุมระยะไกลจากประเทศจีน
ทั้งนี้ชายชาวจีนที่แสดงตน ณ บ้านเช่าหลังดังกล่าวข้างต้น ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดไม่ได้ฉ้อโกง ตนได้รับวีซ่า DTV วีซ่าสำหรับคนทำงานประเภทดิจิทัลต่างประเทศในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย และตนบริสุทธิ์ใจที่จะให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องอุปกรณ์ไปตรวจสอบเบื้องต้นได้ทำการตรวจยึด มินิพีซี ยี่ห้อ bmax จำนวน 120 เครื่อง Usb hub จำนวน 80 อัน Aircard พร้อมซิมส์โทรศัพท์ จำนวน 369 อัน เครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook จำนวน 1 เครื่อง จอคอมพิวเตอร์ เอาไว้แสดงผลกับ มินิพีซีทั้งหมด จำนวน 1 จอ
เบื้องต้นแอร์การ์ดที่ตรวจพบในบ้านหลังดังกล่าว มีใช้ลูกข่ายเซลลูลาร์ เครื่องวิทยุโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยยังไม่ได้ตรวจรับรองมาตรฐานโทรคมนาคม ซึ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ กสทช.ได้ร่วมกันตรวจยึดอุปกรณ์ดังกล่าวไว้ตรวจสอบตาม พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตรา 6 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามมาตรา 23 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ตำรวจไซเบอร์ขอเตือนว่า การนำข้อมูลของตนเองไปให้ผู้อื่นใช้ ผู้ที่นำไปใช้อาจจะนำไปก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย และผู้ที่นำข้อมูลไปใช้อาจจะต้องตกเป็นผู้ต้องหาในภายหลัง ขอเตือนพี่น้องประชาชนว่าอย่าเห็นแก่เงินเพียงเล็กน้อย แลกกับที่ตนเองต้องตกเป็นผู้ต้องหาในภายหลัง