เมื่อ : 17 ธ.ค. 2567

พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รองผบก.น.6 พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.เสกสรรค์ ชุ่มแจ่ม รองผกก.จร.สน.พระราชวัง  พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.พลาวัสถ์ คนกล้า สว.สส.สน.พระราชวัง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ สส.สน.พระราชวัง ร่วมกันจับกุมนายบรรพต แหยมทัด อายุ 29 ปี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นจีออราโน่ สีขาว-ดำ ทะเบียน 7ขฐ4979 กรุงเทพมหานคร 1 คัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณถนนท้ายวัง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2567 เวลาประมาณ 14:30 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนสน.พระราชวัง รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ น.ส.แอนนา อายุ 25 ปี สัญชาติ รัสเซีย ว่าเงินประมาณ 15000 บาท ได้หายไป โดยก่อนหน้ากำลังยืนรอรถจักรยานยนต์รับจ้างที่เรียกผ่านแอพลิเคชั่นชื่อดัง (โบลท์) เพื่อไปวัดสระเกศ จากนั้นรถจักรยานยนต์ที่ตนเองเรียกไว้มาถึง โดยคนขับบอกให้ส่งกระเป๋าไปให้เพื่อนำไปแขวนไว้ด้านหน้ารถ โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันการถูกวิ่งราว จากนั้นได้พาผู้แจ้งขี่รถวนบริเวณรอบพระบรมมหาราชวังแล้วนำกลับมาส่งไว้ที่เดิม โดยคนขับอ้างว่าไม่ใช่พนักงานขับรถที่ผู้แจ้งจ้างผ่านแอพลิเคชั่นแต่อย่างใด และขับรถออกไป เมื่อผู้เสียหายตรวจตอบกระเป๋าสะพายที่ได้รับคืนจากผู้ต้องทาก็พบว่าเงินสดจำนวน 15000 บาท ที่ใส่ไว้ภายในได้สูญหายไป จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี


หลังรับแจ้งชุดสืบสวนสน.พระราชวัง สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าวคือ นายบรรพต อายุ 29 ปี ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นจีออราโน่ สีขาว-ดำ ทะเบียน 7ขฐ4979 กรุงเทพมหานคร และจากแนวทางการสืบสวนยังทราบว่านายบรรพต ได้ขับรถจักรยานยนต์ คันดังกล่าวกลับมาตระเวนแถวจุดเกิดเหตุอีกครั้งโดยใช้ตุ๊กตามาปิดบังแผ่นป้ายทะเบียนไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสน.พระราชวัง ได้จับกุมและออกใบสั่งให้กับนายบรรพตข้อหาปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน ก่อนตรวจสอบพบว่าลักษณะคล้ายกับผู้ต้องสงสัยก่อเหตุลักทรัพย์ ชุดสืบสวนสน.พระราชวัง จึงได้คุมตัวนายบรรพต สอบสวนเพิ่มเติม


จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ชาวต่างชาติจริงระหว่างที่ได้ขับรถจักรยานยนต์อยู่บริเวณท่าเตียนได้มีผู้โดยสารชาวต่างชาติได้เรียกใช้แอพลิเคชั่นโบลท์ ที่ตนใช้บัญชีชื่อผู้รับงานของรุ่นน้องที่รู้จักกัน ชื่อสุรัตน์ มาวิ่งรับผู้โดยสาร ซึ่งก่อนที่จะไปรับชาวต่างชาติตนเองได้จอดรถและนำหน้ากากอนามัยมาปิดที่ป้ายทะเบียนรถไว้ เมื่อไปถึงชาวต่างชาติได้เปิดกระเป๋าเพื่อที่จะชำระค่าโดยสาร และเห็นว่าเงินในกระเป๋ามีเงินสดเป็นจำนวนมาก จึงออกอุบายให้นักท่องเที่ยวเอากระเป๋ามาไว้หน้ารถของข้า โดยระหว่างที่ขับรถได้ล้วงเข้าไปในกระเป๋าของผู้โดยสารชาวต่างชาติที่ห้อยไว้หน้ารถหยิบเงินมาได้จำนวน 14000 บาท จากนั้นขับมาส่งที่เดิมแล้วบอกกับผู้โดยสารว่าเรียกรถผิดคันก่อนขับหนีไป

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.พระราชวัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

จากการตรวจสอบประวัติ นายบรรพต แหยมทัด พบมีประวัติเคยกระทำความผิดคดีอาญา 2 ครั้ง เหตุลักทรัพย์ ปี 2557 สภ.สามง่าม ภ.จว.พิจิตร และเหตุฝ่าฝืนประกาศกำหนดอาหารที่ห้ามผลิตห้ามนำเข้าหรือห้ามจำหน่าย ปี2566 สน.ชนะสงคราม