เมื่อ : 18 ธ.ค. 2567

นครราชสีมา–ฤดูหนาวนี้พุดซา 3 รส ของคุณแสเดือน ประยูรเมฆ วัย 52 ปี ชาวบ้านห้วยทราย ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ให้ผลผลิตวันละกว่า 100 กิโลกรัม ตระเวนขายละแวกบ้านมีเท่าไรไม่พอ แถมออเดอร์ของฝากปีใหม่จ่ออีกเพียบ

 

นางแสงเดือน ประยูรเมฆ อายุ 52 ปี ชาวบ้านห้วยทราย ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ตัดสินใจปรับเปลี่ยนไร่มันสำปะหลังจำนวน 4 ไร่ มาปลูกพุดซา 3 รส เพื่อส่งขายให้กับท้องตลาดมานานกว่า 3 ปีแล้ว และตอนนี้พุดซา 3 รส กำลังให้ผลผลิตดกเต็มต้น  และขายได้ราคาดี โดยในปีนี้ผ่านมาครึ่งทางของฤดูกาลเก็บเกี่ยวสามารถทำเงินไปได้แล้วเกือบ 5 หมื่นบาท

 

นางแสงเดือนฯ บอกว่า พุดซา 3 รสที่ปลูกเอาไว้ ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 300 ต้น บนพื้นที่ 4 ไร่ ตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว กำลังให้ผลผลิตดกเต็มต้น เก็บขายได้วันละประมาณ 100 กิโลกรัม แต่ด้วยความที่ตัวเองใช้คนในบ้านเก็บกันเอง เลยไม่สามารถเก็บผลผลิตได้ทัน จนมีร่วงหล่นไปจำนวนมาก  เพราะปีนี้สภาพอากาศเหมาะสม มีฝนพอประมาณพอดีกับความต้องการน้ำของพุดซา  รวมถึงสภาพดินที่เป็นดินทราย ทำให้ได้ผลผลิตดีและมีรสชาติเป็นที่ถูกใจของลูกค้า ประเมินว่าปีนี้น่าจะได้เงินจากการจำหน่ายพุดซาแปลงนี้ไม่น้อยกว่า 1 แสนบาท

 

นางแสงเดือนฯ กล่าวอีกว่า ถือเป็นพืชทางเลือกที่ดีมาก หากเทียบกับการปลูกพืชชนิดอื่นที่นิยมในพื้นที่ อย่างเช่นมันสำปะหลัง อ้อย และข้าวโพด เนื่องจากเป็นพืชสวน อายุการเก็บเกี่ยวนานหลาย 10 ปี ไม่ต้องลงทุนใหม่ทุกปี  การดูแลก็ไม่ค่อยจะยุ่งยากมากนัก เพราะจะมีเฉพาะในการตัดแต่งทรงพุ่มต้นในช่วงมีนาคมของทุกปี จากนั้นก็ดูแลกันตามสภาพ ให้ปุ๋ยคอก และใช้สารเคมีคุมหนอนแมลงในช่วงที่เริ่มติดลูก ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่สำคัญที่สุด เพราะหากสามารถควบคุมหนอนแมลงในช่วงนี้ได้แล้ว ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง  แต่ละปีจะใช้เงินทุนในการดูแลทั้งสวนประมาณ 2 หมื่นบาท แต่จะมีรายได้จากการจำหน่ายในแต่ละรอบคือระหว่างช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึงช่วงปีใหม่ประมาณปีละ 1 แสนบาท  

 

โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่นี้จะมีออเดอร์สั่งซื้อเข้ามากันเป็นจำนวนมาก เพราะส่วนใหญ่จะนิยมนำไปเป็นของฝากญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง ส่วนลูกค้าก็ไม่ต้องหายาก เพราะในช่วงปกติ แค่เก็บเอาไปวางขายตามตลาดละแวกบ้านก็ไม่พอกันแล้ว ส่วนราคาขายนั้นมีราคาเดียวคือ กิโลกรัมละ 40 บาทเท่านั้น  ซึ่งก็เป็นราคาที่ลูกค้ามีกำลังซื้อได้อย่างไม่ลำบากนัก โดยทางสวนจะไม่ได้ขายส่งให้แม่ค้าคนกลาง เพราะจะมีการกดราคา  ซึ่งก็ถือว่าเป็นพืชทางเลือกที่สร้างรายได้ดีและมั่นคงกว่าการปลูกพืชชนิดอื่นที่ราคาไม่แน่นอน.