เมื่อ : 18 ธ.ค. 2567

หนุ่มร้องสายไหมต้องรอด ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไปทำงาน ซ้ำแฟนสาวยังถูกหน้าม้าฝั่งไทยหลอกไปข่มขืนทำร้ายร่างกาย


ผู้เสียหาย เล่าว่า ตกงานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จึงได้โพสต์หางานเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นก็มีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ติดต่อมาชวนไปทำงานกาสิโนที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา บอกว่าเป็นงานถูกกฎหมาย ทำงาน 5 วัน จะได้ค่าจ้าง 35000-37000 บาท และค่าเปิดบัญชีธนาคารอีก 4000 บาท

 

จนกระทั่งวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา จึงตกลงเดินทางไปทำงาน เมื่อไปถึงก็พบว่านายจ้างเป็นคนจีน ถูกยึดโทรศัพท์มือถือ หลอกให้เปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ อ้างเอาไว้สำหรับแลกชิพเว็บพนันให้แก่ลูกค้า แต่กลับถูกนำไปใช้เป็นบัญชีม้า ทุกครั้งที่หลอกเงินได้ เจ้าของบัญชีจะถูกบังคับให้มานั่งสแกนใบหน้าเพื่อถอนเงิน โอนเงิน หากไม่ทำจะถูกซ้อม ทุบตี ถูกช็อตไฟฟ้า ทรมานต่าง ๆ นานา จะปล่อยตัวกลับก็ต่อเมื่อบัญชีม้าถูกอายัดจนหมดแล้ว ไม่สามารถใช้งานได้ สุดท้ายได้ค่าจ้างเพียง 4000 บาท ไม่ได้ได้ค่าจ้างตามที่ตกลงไว้ตอนแรก

 

แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น ระหว่างที่ผู้เสียหายนครปฐมอยู่ที่ปอยเปต ถูกยึดโทรศัพท์มือถือ ทำให้ครอบครัวและแฟนสาวไม่สามารถติดต่อได้ แฟนสาวจึงไปค้นหาข้อมูลต่าง ๆ จนได้เบอร์โทรศัพท์ของแก๊งคอลเซนเตอร์ คนที่มาติดต่อชักชวนให้ไปทำงาน แฟนสาวจึงโทรติดต่อไปที่เบอร์ดังกล่าว มีผู้ชายรับสายจึงสอบถามว่าแฟนตนเองหายไปไหน ทำไมติดต่อไม่ได้ ผู้ชายคนที่รับสายได้ออกอุบายว่า ตอนนี้แฟนติดผู้หญิง อยู่ที่ห้องกับผู้หญิงในจังหวัดนครปฐมงานการไม่สนใจทำ ถ้าไม่เชื่อจะพาไปดู แฟนสาวจึงขอให้ชายคนดังกล่าวพาไปดู เมื่อไปถึงไม่พบแฟนหนุ่ม

 

แต่กลับถูกชายคนดังกล่าวผลักเข้าไปในห้องก่อนลงมือข่มขืนและทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุแฟนสาวไม่กล้าไปแจ้งความ เนื่องจากถูกชายแก๊งคอลเซนเตอร์ ผู้ก่อเหตุคนดังกล่าวขู่ว่า ถ้าไปแจ้งความแฟนจะถูกฆ่าตายที่ปอยเปต  ต่อมาวันที่ 15 ธันวาคม บัญชีม้าของผู้เสียหายถูกอายัดหมดแล้ว คนจีนจึงปล่อยตัวกลับมา จึงทำให้ฝ่ายชายทราบเรื่องราวทั้งหมด จึงติดต่อ เพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องที่แฟนสาวถูกกระทำ  และพร้อมให้ข้อมูลกับตำรวจ เกี่ยวกับสถานที่ตั้งของแก๊งคอลเซนเตอร์แก๊งนี้

 

นายเอกภพ เปิดเผยว่า ตอนนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการปรับรูปแบบในการหาบัญชีม้า จากเดิมที่จ้างให้เปิดบัญชี แต่เมื่อกฎหมายมีบทลงโทษกับบัญชีมา จึงทำให้จ้างบัญชีมาได้ยากขึ้น เลยหาวิธีในการหลอกเหยื่อคนไทยว่าไปทำงานแต่ไม่หลอกให้เปิดบัญชีมาแทน เสมือนเป็นโรงงานผลิตบัญชีม้า จึงฝากเตือนประชาชนให้ระวังอย่าหลงเชื่อมิจฉาาชีพที่ชวนไปทำงานในลักษณะดังกล่าว เพราะอาจถูกหลอกให้ไปเป็นเหยื่อได้ หลังจากถูกปล่อยตัวกลับมา สิ่งที่ตามมาก็คือต้องถูกดำเนินคดีด้วย

 

จากนี้จะประสานไปยังผู้กำกับการ สภ.กำแพงแสน เพื่อติดตามนายหน้าคนที่ชักชวนชายผู้เสียหายไปทำงาน และหลอกลวงแฟนสาวของผู้เสียหายไปล่วงละเมิดมาดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมกับจะพาผู้เสียหายไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอเข้ารับการคุ้มครองพยาน