เมื่อ : 19 ธ.ค. 2567

วานนี้ (18 ธันวาคม 2567) ณ สโมสรทหารบกวิภาวดี ได้จัดให้มีการแถลงข่าว ”ศึกมวยรอบปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้” ครั้งที่ 24 โดยได้รับเกียรติจากนายกริช ชินประสาทศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และ สินค้าปูนซีเมนต์ปูนเสือ พร้อมด้วย นายปริวัฒน์ เศรษฐบุตร นายสนามมวยช่อง 7 HD ”ชุ้น เกียรติเพชร” นายพีรพงศ์ ธีระเดชพงศ์ โปรโมเตอร์ ”ศึกมวยไทย 7 สี” และ นายเกรียงศักดิ์ ทองหงษ์ ประธานกรรมการการเทคนิค สนามมวยช่อง 7 HD ร่วมเป็นประธานในงานแถลงข่าวและจับฉลากแบ่งสายในครั้งนี้ มีนักมวยมาเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 33 คน โดยทำการจับสลากเป็นตัวจริง 16 คน (ที่เหลือเป็นตัวสำรอง) และแบ่งเป็น 4 สาย สายละ 4 คน ชกแบบพบกันหมดในสาย โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 600000 บาทพร้อมเข็มขัดถ้วยรางวัลรวมและปูนซีเมนต์อีก 5 ตัน รางวัลที่ 2 300000 บาท รางวัลที่ 3 150000 บาท และ รางวัลที่ 4 100000 บาท ประเดิมนัดแรกวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2568  ที่เวทีมวยช่อง 7 สี ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD ตั้งแต่เวลา 14.30 - 16.30 น. เป็นต้นไป

 

รายชื่อนักมวยปูนเสือตัวจริงมีดังนี้

 

สาย A. เงาอีที ปตท.ทองทวี(ร้อยเอ็ด) แคเมอรูน ศิษย์ลมหนาว (ระยอง) เอเจ ก.กลมเกลียว(ปทุมธานี) เพชรรุ่งโรจน์ โชติบางแสน (เพชรบูรณ์)

 

สาย B. ยอดบัวงาม ลูกกันทระ(มหาสารคาม) รุ่งทะยานฟ้า ส.ยิ่งเจริญการช่าง (เชียงใหม่) นำโชค บุญลานนามวยไทย (แม่ฮ่องสอน) ยอดเหล็กแหลม ต.พิทักษ์ชัย(ร้อยเอ็ด)

 

สาย C. จ่ากล้า ศูนย์กีฬาห้วยต้ม(ลำพูน) มัสแตง รถสวยจ่าเจดสายพริ้ว (นครราชสีมา) เทียนหลวงอึ่งอุบล(อุบลราชธานี) นำขบวน พ.หอมกลิ่น(พัทลุง)

 

สาย D. ราชศักดิ์ ลูกหมู่ 5 (พัทลุง) ก้องมีชัย จิตรเมืองนนท์(ร้อยเอ็ด) ยามาล  ลักกี้บันเทิง (สตูล) พรายพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์ (จันทบุรี)

 

สำหรับตัวสำรองมีดังนี้

 

เยี่ยมยุทธ ป.มงคลอินทร์(บุรีรัมย์) เจมส์ศักดิ์แสงทองค้าแก๊ส (ปทุมธานี) เพชรเดชฤทธิ์ นพเดชมวยไทย (บุรีรัมย์)ก้องสนั่น ส.เทียนโพธิ์ (กระบี่) แสงตะวัน ส.พงษอมร (สงขลา) รักทุกคน ว.วรรณทวี(อุบลราชธานี) แสนเอก ส.ราชภูมิ(อุบลราชธานี)เพชรวิเศษ ส.อรรถชัย(ตรัง)ชาญฤทธิ์ ส.เดชะพันธ์(สุราษฎร์ธานี) ปูติน สวนน้ำธารคีรี(กระบี่) เพชรค้ำคูณ อ.อู๊ดอุดร(สุรินทร์) อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซด์ (ยะลา) เพชรอาเธอร์ บังมัดคลองตัน (อุบลราชธานี) ออฟไซด์  SP กันสาดแป๊ะมีนบุรี(อุบลราชธานี) กัปตัน วันของโอม MBK (กรุงเทพฯ)เก่งรบ ป.หนึ่งเดียว(กาฬสินธุ์) แสงศักดา หีมทางด่วน(สุราษฎร์ธานี)

 

นายกริช ชินประสาทศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สินค้าปูนซีเมนต์ ปูนตราเสือ กล่าวว่า มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติของคนไทย เป็นกีฬาที่แสดงถึงศิลปะในการป้องกันตัวและยังเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ซึ่งในปัจจุบันเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่มีผู้สนใจติดตามชมการแข่งขันเป็นจำนวนมากซึ่งในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยมีนักมวยที่เก่งจนสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้เป็นจำนวนมาก และเพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมวงการกีพามายไทยให้พัฒนาขึ้นและมีนักมวยรุ่นใหม่ๆ ที่มีความสามารถขึ้นมาทดแทนซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องมีการแข่งขันในระดับมาตรฐานและมีความยุดิธรรม เพื่อให้นักมวยรุ่นใหม่ได้มีโอกาสหาประสบกรณ์ในการซก พัฒนาทักษะและฝีมือในการชกแทนนักมวยรุ่นเก่าได้ เชื่อว่า “ศึกมวยปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้” ครั้งที่ 24 จะเป็นประโยชน์ต่อวงการก็ฬามวยไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นต่อไป

 

สำหรับมวยรอบปูนเสือ “ศึกมวยปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้” ครั้งที่ 24 เริ่มการแข่งขันรอบ 16 คน (8 คู่) ระหว่างวันที่ 19 ม.ค. - 9  ก.พ. 68 แข่งขันรอบ 2 (ชก 12 คู่) ระหว่างวันที่ 23 ก.พ - 6 เม.ย.68 จากนั้นจะมีการจับสลากแบ่งสายรอบ 8 คน ในวันที่ 6 เม.ย. 68 เริ่มการแข่งขันรอบ 8 คน (ชก 10 คู่) ระหว่างวันที่ 4 พ.ค. - 20 ก.ค. 68 ก่อนจะจับสลากประกบคู่รอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 20 ก.ค. 68 เริ่มการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ (ชก 2 คู่) ในวันที่ 17 ส.ค. 68 จากนั้นในรอบชิงชนะเลิศและชิงอันดับที่ 3 (ชก 2 คู่) จะแข่งขันวันที่ 21 ก.ย. 68 ต่อไป โดยช่อง 7 HD จะถ่ายทอดสดการแข่งขันให้แฟนมวยชาวไทยได้รับชมทั่วประเทศเหมือนเดิม

THAI FIGHT เดินหน้ารุกตลาดจีน ร่วมกับบริษัทชั้นนำในประเทศจีน จัดตั้งบริษัท Taizan (Beijing) Sports Culture Development ในประเทศจีน เพื่อขยายตลาดมวยไทยอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมชู “THAI SPIRIT”

 

ในปีนี้บริษัท ไทยไฟท์ ได้จัดตั้งบริษัท Taizan (Beijing) Sports Culture Development Co.Ltd. ร่วมกับ United Vansen Sports Management Co. Ltd. บริษัทบริหารจัดการกีฬาชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ ณ กรุงปักกิ่ง และ Tibet Water Resources Co. Ltd. (จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮั่งเส็ง-ฮ่องกง SEHK: 1115) เป็นบริษัทน้ำดื่มระดับไฮเอนด์ของจีนที่ผลิตน้ำที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณภาพสูง เพื่อส่งเสริมกีฬามวยไทยและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในประเทศจีน รวมถึงการจัดงานมวยไทยระดับโลกในประเทศจีน

 

การเปิดยิมมวยไทย 10000 ยิมทั่วประเทศจีนภายใน 5 ปี เพื่อพัฒนานักกีฬามวยไทยมืออาชีพชาวจีนและประชาชนทั่วไปที่สนในศิลปะแม่ไม้มวยไทย และร่วมกันพัฒนาโครงการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมร่วมกับเมืองต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันได้รับความสนใจจากทั้งภาคเอกชนและภาครัฐบาลในประเทศจีนที่อยากเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจกับบริษัทเป็นจำนวนมาก โดยในปีหน้าตั้งเป้าจะจัดการแข่งขันมวยไทยไฟท์ในหลาย ๆ เมืองใหญ่ในประเทศจีน พร้อมทั้งเจรจาธุรกิจในการเปิดยิมมวยไทยอีกด้วย เพื่อเป็นการเผยแพร่มวยไทยในที่รู้จักกว้างขวางในประเทศจีนให้มากยิ่งขึ้น และเป็นการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้แก่ประเทศไทย
      
พิธีลงนามความร่วมมือระหว่างบริษัท ไทยไฟท์ จำกัด โดย ดร.นพพร วาทิน ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท ร่วมกับ United Vansen Sports Management Co.Ltd. โดยนายอู๋ เอินยาน กรรมการบริหารและ CEO บริษัท ลงนามในสัญญาจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศจีน โดยมี นายฉัตรชัย วิริยะเวชกุล เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน  นายเหอ เหวินอี้ เลขาธิการฐานวิจัยอุตสาหกรรมกีฬาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง คุณภัคนันท์ วินิจชัย ผู้อำนวยการ

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงปักกิ่ง และหอการค้าทั่วไปแห่งประเทศไทย โดยมี นายเชาว์ชัย เจียมวิจิตร ประธานคณะอนุกรรมการการค้าชายแดนและข้ามแดนด้านจีนตอนใต้ (TSC trade) หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยร่วมเป็นสักขีพยาน โดยนายฉัตรชัย วิริยะเวชกุล กล่าวว่ามวยไทย อาหารไทย และวัฒนธรรมไทยเป็นหัวใจสำคัญเป็น Soft Power ของประเทศไทย โดยรัฐบาลไทยจะให้การสนับสนุนในทุกด้านสำหรับความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย
     
ในปี 2568 บริษัทไทยไฟท์กำลังจะก้าวสู่ปีที่ 16  บริษัทมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะสร้างแบรนด์โดยใช้ศิลปะมวยไทย ซึ่งเป็น ‘THAI SPIRIT’ ของประเทศไทยเผยแพร่ไปยังทั่วโลก โดยใช้อีเวนต์การชกมวยไทยเป็นเครื่องมือสื่อสารให้แบรนด์เข้าถึงคนทั่วโลก โดยในส่วนของไทยไฟท์ยิมนั้นจะบริหารและบริหารธุรกิจฟิตเนส ทั้งสำหรับการออกกำลังกายและเรียนศิลปะป้องกันตัว ซึ่งนอกจากตลาดในประเทศไทยแล้ว บริษัทไทยไฟท์มีแผนขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศด้วย อาทิ จีน ตะวันออกกลาง และประเทศในโซนยุโรป 

 

โดยปีหน้าบริษัทจะจัดการแข่งขันมวยไทยโลก ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในช่วงต้นเดือนเมษายน และจัดการการแข่งขันมวยไทยโลกในหลาย ๆ เมืองใหญ่ของประเทศจีนเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบ 50 ปีอีกด้วย