เมื่อ : 21 ธ.ค. 2567

ตำรวจไซเบอร์บุกทลายคลังแสงกลางหมู่บ้านหรูเมืองปทุมธานียึดปืนเถื่อนพร้อมเครื่องกระสุนได้เป็นจำนวนมาก

ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์  มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อสามารถติดตามทรัพย์สินที่หลอกลวงไปกลับมาเยียวยาความเดือดร้อนของผู้เสียหาย จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

 

ตามนโยบายการบริหารราชการ ของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ให้ทำการปราบปรามอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย ซึ่งมีการจำหน่ายกันเป็นที่เปิดเผยผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย ส่งผลต่อการก่ออาชญากรรมของเหล่าอาชญากร ต่อพี่น้องประชาชน  ผู้บริสุทธิ์ให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง บช.สอท. จึงสั่งการให้ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 มุ่งเน้นให้มีการปราบปรามอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย โดยให้ทำการสืบสวนอย่างจริงจัง จนนำไปสู่การจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิด

 

ในเวลาต่อมา พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ฤทธิไกร ขุนท้าวเทียม รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ทำการสืบสวนตามสั่งการของผู้บังคับบัญชา จากการสืบสวนปรากฏพบว่า พบนายเอ (นามสมมุติ) มีพฤติการณ์ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก โดยผิดกฎหมาย ภายในบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านหรู จ.ปทุมธานี  จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดธัญบุรี และในเวลาต่อมาศาลจังหวัดธัญบุรี ได้อนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 810/2567 ลงวันที่ 19 ธ.ค.67 เพื่อให้ทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว

 

เมื่อถึงบ้านหลังดังกล่าวพบเจ้าของบ้าน คือ นายเอ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับ จากการตรวจค้นพบ อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย เช่น อาวุธปืนลูกซองยาวสีดำ ยี่ห้อ Commando อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ (ปืนแก้ป) อาวุธปืนยาวขนาด .22 พร้อมลำกล้อง กระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวนมาก และอุปกรณ์อื่นๆ อีกหลายรายการ

เบื้องต้นนายเอ (นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพโดยจำนนต่อหลักฐานว่าตนได้ครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก และทำการครอบครองโดยผิดกฎหมายจริง 

 

โดยนายเอ (นามสมมุติ) ให้การว่าทำการซื้อและสะสมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อีกทั้งนายเอ ได้ให้การเพิ่มเติมว่า รู้สึกสำนึกผิดและมีเจตจำนงค์จะไม่กระทำความผิดในลักษณะนี้อีกต่อไปอีกทั้ง พร้อมเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายโดยดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงนำตัวนายเอ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป