“เก็บข้าวนาเล เสน่ห์นาดอน”อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า “200 ปี”

พัทลุง “เก็บข้าวนาเล เสน่ห์นาดอน” อนุรักษ์ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมการทำนาริมเลที่มีมานานกว่า “200 ปี” และการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่มีเพียงแห่งเดียวของประเทศไทย
ที่บริเวณแปลงนาดอน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนาริมเลบ้านปากประ ต.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผวจ.พัทลุง เป็นประธานเปิดกิจกรรม “เก็บข้าวนาเล เสน่ห์นาดอน” ซึ่งวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทำนาริมเลบ้านปากประ ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้ง 5 ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และชุมชนได้ร่วมกันจัดขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นการทำนาริมเล และการทำนาดอนที่ได้สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนถึงปัจจุบันมากกว่า 200 ปี โดยชาวปากประจะนำพันธุ์ข้าว กข.43 ซึ่งเป็นข้าวที่มีน้ำตาลต่ำและเป็นที่นิยมของกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจต่อการดูแลสุขภาพของตนเอง
จากการทำนาริมทะเลสาบสงขลา (นาริมเล) ที่ไม่ต้องใส่ปุ๋ยแต่มีผลผลิตสูงมากกว่า 800 กก. / ไร่ มาเป็นพันธุ์ข้าวมาปลูกในนาดอนที่ให้ผลผลิตมากกว่า 600 กก. / ไร่ อีกด้วย
นายรัฐศาสตร์ ฯ ผวจ.พัทลุง เปิดเผยว่า การทำนาริมเล ริมทะเลสาบสงขลา และนำพันธุ์ข้าวจากนาเลไปสู่การทำนาดอนนั้นมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนี้นับเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.พัทลุง
และในขณะเดียวกันการทำนาริมเล นับเป็นแหล่งเพาะพันธ์สัตว์น้ำที่สำคัญของ จ.พัทลุง ซึ่งเป็นสร้างการตระหนักในการปกป้องฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นสร้างการมีส่วนร่วมของคนทั้งในและนอกชุมชน
“ทางจังหวัดมั่นใจว่าการจัดกิจกรรม เก็บข้าวนาเล เสน่ห์นาดอน นับเป็นการประชาสัมพันธ์การทำนาริมแล และนาดอน ให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น”
นายรัฐศาสตร์ กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวกันกลุ่มเกษตรกรชาวปากประจะมีรายได้จากการขายผลผลิตของข้าวนาเล ข้าวนาดอน สัตว์น้ำในทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะปลาลูกเบร่ ซึ่งเป็นที่เป็นที่รู้จักและนิยมของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น.