เมื่อ : 03 ธ.ค. 2567

“ซ้อนแผนสวิงกิ้ง” แผนการสุดแหวกแนวของชุดสืบนครบาล เรียกว่าแหวกทุกมิติการจับกุมผู้การจ๋อให้ ร.ต.อ.ปลอมตัวด้วยชุดแฟนตาซีนักมวยปล้ำ โดยมี สายสืบ 6 ชีวิต แอบในตู้เสื้อผ้า ซอกเตียง ระเบียงห้อง ก่อนรวบตัว หนุ่มชาวจีนแนวโรคจิตแนว NTR ที่ลงมือข่มขืนนิสิตปี 1 อย่างซาดิสซ์และตระเวนถ่ายใต้กระโปรงเด็กนักเรียนเพียบ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดอ้างเครื่องสวมไว้ที่คอคืออุปกรณ์ที่ไว้ใช้ในตอนมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเรื่องทางคดีตนไม่ยอมรับ   ขยายผลพบมีคลิปของเหยื่อถูกกระทำชำเราอย่างซาดิสซ์และที่น่าตกใจคือพบคลิปการไปแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวตามที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก

 

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วิทย์วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์รอง สว.ฝอ.2 บก.อก.สทส.  และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัว

นายซูซิงเลย (Mr.Su Xing Rui) อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5716/2567 ลงวันที่ 26 พ.ย. 67  ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย”ตรวจยึดของกลาง 1.โทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง (พบคลิปการข่มขืนเหยือ คลิปการมีเพศสัมพันธ์แนวซาดิสซ์และคลิปการแอบถ่ายใต้กระโปรงจำนวนมาก) 2.เชือกคล้องคอ 1 เส้น (ใช้เพื่อการมีเพศสัมพันธ์)  โดยจับกุมตัวได้ที่ โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ถ.เพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวีจ.กรุงเทพ
         
พฤติการณ์กล่าวคือ  สืบเนื่องจากได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นนิสิตปี 1 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน วัย 18 ปี ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ว่าได้ถูกชายหนุ่มชาวจีนข่มขืน โดยเหตุเกิดในช่วงเย็นของวันที่ 19 พ.ย. 67 เธอได้พบกับคนร้ายที่บริเวณชั้น 6 ห้างมาบุญครอง คนร้ายได้เข้ามาทักทายทำทีเป็นนักท่องเที่ยวด้วยเหยื่อที่เป็นนักศึกษาและกำลังฝึกพูดภาษาจีน เธอจึงถูกคนร้ายลวงไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรี ก่อนจะลงมือข่มขืนเปิดบริสุทธิ์เธออย่างซาดิสซ์ซ้ำยังถ่ายคลิปวีดิโอเหยื่อไว้ตลอดการลงมือ

 

หลังเกิดเหตุเหยื่อกลับไปที่บ้านในสภาพที่ย่ำแย่ แต่ยังเรื่องคงยังไม่จบเพราะด้วยคนร้ายมีคลิปเปลือยของเหยื่อสาว คนร้ายยังพยายามส่งข้อความมาเชิงให้กลับไปให้คนร้ายกระทำชำเราอีก โดยจะกระทำทางประตูหลัง และจะพาชายอื่นมาร่วมกระทำกับเธออีก เธอไร้ทางออกจึงได้ตัดสินใจบอกเรื่องนี้ให้กับครอบครัวฟัง ก่อนจะพากันเข้าแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับคนร้ายชาวจีนรายนี้ แต่การสืบสวนติดตามนั้นไม่ง่ายเพราะคนร้ายร่อนเร่พเนจรไปทั่วหาตัวจับได้ยาก พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. วิเคราะห์แผนประทุษกรรมและอุปนิสัยของคนร้าย ก่อนตัดสินใจใช้แผนล่อเสือออกจากถ้ำ โดยใช้นกต่อสาวสวยล่อให้คนร้ายมาติดกับดัก แต่ความวิปริตก็เกิดขึ้นเมื่อคนร้ายดันร้องขอกับนางนกต่อให้หาผู้ชายอีก 1 คน สวมชุดแฟนตาซี มาร่วมหลับนอนด้วยแบบ “สวิงกิ้ง” และคนร้ายจึงจะยอมมาพบกับนางนกต่อ โจทย์ที่ยากเกิดขึ้นกับทีมสืบสวน

 

แต่ก็เป็นเพียงหนทางเดียวที่คนร้ายจะปรากฏตัว ตัดสินใจส่ง ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ปลอมตัวเป็นชายหื่นสายซาดิสซ์ “สวมแฟนตาซี” แทดทูลายสักให้เหมือนชาวต่างชาติ เข้าไปร่วมเกมส์สวาทกับคนร้าย กระทั่งคนร้ายนัดหมาย “ทรีซั่ม” กับนางนกต่อและ ร.ต.อ.ปลอมตัว โดยสั่งให้ไปเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ถ.เพชรบุรี พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือ “ซ้อนแผนสวิงกิ้ง” ส่งชุดสืบนครบาลเข้าไปแอบในห้องพักเพื่อดักรอให้คนร้ายปรากฏตัว สายสืบ 6 ชีวิต แอบในตู้เสื้อผ้า ซอกเตียง ระเบียงห้อง รอคอยการปรากฏตัวของคนร้ายอย่างใจจดใจจ่อ กระทั่งเวลา 19.30 น. เสียงเคาะประตูดังขึ้น ร.ต.อ.ปลอมตัวในชุดนักมวยปล้ำ เดินไปเปิดประตู คนร้ายกับท่าทีระแวดระวังตัวสวมสิ่งปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิด เดินเข้ามาเมื่อ ร.ต.อ.ปลอมตัว ถามชื่อจนมั่นใจว่าเป็นคนร้าย ก็ได้ส่งสัญญาณ “ฮี่ๆๆๆๆ” ทันใดนั้นชุดสืบสวนที่แอบอยู่ทั้งหมดก็ออกมาตะครุบตัวไว้ได้ทันที 
        
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “รู้สึกตกใจมาก บวกกับก่อนมาถูกจับกุมตนเองได้โด้ปยาชูกำลังมาเต็มเครื่อง โดยที่สวมไว้ที่คอคืออุปกรณ์ที่ไว้ใช้ในตอนมีเพศสัมพันธ์ ส่วนเรื่องทางคดีตนไม่ยอมรับ ขอปฏิเสธและไม่ขอให้การใดๆ ตนท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่ได้มาประกอบธุรกิจแสกมเมอร์ใดๆ”

 

หลังการจับกุมชุดสืบสวนขยายผลพบข้อมูลในโทรศัพท์คนร้ายเป็นจำนวนมาก โดยมีคลิปของเหยื่อผู้เสียหายถูกกระทำชำเราอย่างซาดิสซ์แล้วยังพบคลิปที่คนร้ายได้มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวรายอื่นๆอีกหลายราย และที่น่าตกใจคือพบคลิปการไปแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวตามที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก และยังพบหลักฐานอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งวิเคราะห์ได้ว่าคนร้ายมีรสนิยมทางเพศในลักษณะ NTR

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ต้องยอมรับว่าคนร้ายรายนี้เป็นชาวต่างชาติ มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เรียกได้ว่าเป็นคนที่หาตัวจับยาก เราจึงต้องใช้หลักการและทฤษฎีเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนร้ายมาช่วยในการสืบสวนติดตามตัว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราสามารถล่อคนร้ายมาติดกับดักเราได้ เพราะไม่หากใช้เวลานาน อาจจะมีสุภาพสตรีตกเป็นเหยื่อเพิ่ม ส่วนในทางคดี เราขยายผลพบพยานหลักฐานสำคัญทางคดี ซึ่งเราจะมีการนำส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดีกับคนร้าย แต่ที่น่าตกใจคือคนร้ายรายนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในประเทศไทยได้เพียงไม่นาน

 

แต่ปรากฏว่ามีการไปแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวในที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก และมีพฤติกรรมที่หมกมุ่นทางเพศเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้กระทำมิดีมิร้ายใดๆ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ และ พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น.”

 

หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีต่อไป